นโยบายความเป็นส่วนตัว

นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า "นโยบาย" บังคับใช้ครั้งแรกเมื่อวันที่ 7 กันยายน 2566 โดยมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้

ข้อ 1 ค่านิยาม

ภายในนโยบายฉบับนี้

(ก) "เว็บไซต์" หมายความว่า เว็บไซต์ ชื่อว่า INFESTATION SEA และมีที่อยู่เว็บไซต์ที่ www.infestsea.com

(ข) "ผู้ควบคุมข้อมูล" หมายความว่า ผู้ให้บริการหรือเจ้าของเว็บไซต์ ตามนโยบายฉบับนี้ อันได้แก่ บริษัท ท็อป แฟร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จํากัด ทะเบียนนิติบุคคลเลขที่ 0205566042617 สํานักงานตั้งอยู่ที่ 237/24 หมู่ที่ 5 ตําบลนา เกลือ อําเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ติดต่อ [email protected]

(ค) "ผู้ประมวลผลข้อมูล" หมายความว่า บุคคลภายนอกซึ่งประมวลข้อมูลเพื่อประโยชน์หรือในนามของผู้ควบคุม ข้อมูล

(ง) "ข้อมูล" หมายความว่า สิ่งที่สื่อความหมายให้รู้เรื่องราวข้อเท็จจริง ข้อมูล หรือสิ่งใดๆ ไม่ว่าการสื่อความหมาย นั้นจะทําได้โดยสภาพของสิ่งนั้นเองหรือโดยผ่านวิธีการใดๆ และไม่ว่าจะได้จัดทําไว้ในรูปของเอกสาร แฟ้ม รายงาน หนังสือ แผนผัง แผนที่ ภาพวาด ภาพถ่าย ฟิล์ม การบันทึกภาพหรือเสียง การบันทึกโดยเครื่อง คอมพิวเตอร์ โดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือวิธีอื่นใดที่ทําให้สิ่งที่บันทึกไว้ปรากฏได้

(จ) "ข้อมูลส่วนบุคคล" หมายความว่า ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดาใดๆ ซึ่งทําให้สามารถระบุตัวของบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม

(ฉ) "ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว" หรือ "Sensitive Data" หมายความว่า ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานที่ เกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิศาสนา หรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ พันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ ข้อมูลภาพจ่าลองใบหน้า ม่านตา หรือลาย นิ้วมือ ข้อมูลสหภาพแรงงานหรือข้อมูลอื่นใดซึ่งคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายคุ้มครอง ข้อมูลส่วนบุคคลได้ประกาศให้เป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว

(ช) “ผู้ใช้งาน" หมายความว่า ท่าน ผู้เยี่ยมชม ผู้ใช้ ผู้เป็นสมาชิกของเว็บไซต์ ซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตาม นโยบายฉบับนี้

(ซ) “เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล" หมายความว่า เจ้าหน้าที่ที่ผู้ควบคุมข้อมูลจัดให้มีเพื่อดําเนินการตาม กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อ 2 ความยินยอมของผู้ใช้งาน

ในการเข้าใช้งานเว็บไซต์ผู้ใช้งานตกลงและให้ความยินยอมเกี่ยวกับการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ดังต่อไปนี้

(ก) วัตถุประสงค์แห่งการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

ผู้ใช้งานรับทราบ ตกลง และยินยอมให้ผู้ควบคุมข้อมูลเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อ ไปนี้เท่านั้น

การประชาสัมพันธ์และการตลาดในช่องทางออนไลน์ ออฟไลน์ รวมไปถึงเทเลเซลล์

(ข) ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมและใช้

ผู้ใช้งานรับทราบ ตกลง และยินยอมให้ผู้ควบคุมข้อมูลเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ดังต่อไปนี้เท่านั้น

ชื่อ นามสกุล เพศ ที่อยู่ ประเทศ เบอร์โทร อีเมล วันเดือนปีเกิด

(ค) ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูล

ผู้ใช้งานรับทราบ ตกลง และยินยอมให้ผู้ควบคุมข้อมูลเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคล เป็นระยะเวลาทั้งสิ้น 5 (ห้า) ปีนับจากวันที่ได้มีความยินยอมให้เก็บรวบรวมและใช้ข้อมูล ส่วนบุคคลตามนโยบายฉบับนี้

ข้อ 3 การเชื่อมโยงข้อมูลของผู้ใช้งานเว็บไซต์กับผู้ให้บริการบุคคลที่สาม

ผู้ใช้งานรับทราบ ตกลง และยินยอมให้ผู้ควบคุมข้อมูลอาจการเชื่อมโยงข้อมูลของผู้ใช้งานเว็บไซต์ กับผู้ให้บริการบุคคลที่สาม โดยในการเชื่อมโยงหรือแบ่งปันข้อมูลต่อผู้ให้บริการบุคคลที่สาม ในแต่ละคราว ผู้ควบคุมข้อมูลจะแจ้งให้ผู้ใช้ งานทราบว่าข้อมูลของผู้ใช้งานใดที่จะถูกเชื่อมโยงหรือแบ่งปันแก่ผู้ให้บริการบุคคลที่สาม ทั้งนี้ เมื่อผู้ใช้งานได้แสดง เจตนาโดยชัดแจ้งในการอนุญาตให้มีการเชื่อมโยงหรือแบ่งปันดังกล่าวนั้น อันรวมถึงแต่ไม่จํากัดเพียง การกดยอมรับ อนุญาต เชื่อมโยง แบ่งปันหรือการกระทําใดๆ อันมีลักษณะโดยชัดแจ้งว่าผู้ใช้งานได้ยินยอมในการเชื่อมโยงหรือแบ่ง ปันข้อมูลต่อผู้ให้บริการบุคคลที่สามนั้น

ข้อ 4 การติดตามพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ของผู้ใช้งาน

ผู้ใช้งานรับทราบ ยินยอม และตกลงให้ผู้ควบคุมข้อมูลอาจใช้ระบบและ/หรือเทคโนโลยีดังต่อไปนี้ในการติดตาม พฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ของผู้ใช้งาน

เทคโนโลยี Cookies, การใช้งาน Pixel Tags และ Google Analytics Tag

ทั้งนี้ เพื่อวัตถุประสงค์ดังระบุต่อไปนี้เท่านั้น

เพื่อพัฒนาการให้บริการและนําเสนอสินค้าที่ตรงตามความต้องการของผู้ใช้งาน

ข้อ 5 การถอนความยินยอมของผู้ใช้งาน

ผู้ใช้งานรับทราบว่าผู้ใช้งานมีสิทธิที่จะถอนความยินยอม ใดๆ ที่ผู้ใช้งานได้ให้ไว้แก่ผู้ควบคุมข้อมูลตามนโยบายฉบับนี้ ได้ไม่ว่าเวลาใดโดยการดําเนินการ ดังต่อไปนี้

เลือก "ไม่ยินยอม" ในเมนูการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวภายในเว็บไซต์โดยตรง

โดยผู้ใช้งานยังรับทราบอีกว่าเมื่อผู้ใช้งานได้ดําาเนินการถอนความยินยอมแล้ว ผู้ใช้งานจะได้รับผลกระทบ ดังต่อไปนี้

ผู้ใช้งานจะไม่สามารถใช้บริการพิเศษภายในเว็บไซต์ได้ มีเพียงสิทธิ์เยี่ยมชมเท่านั้น

โดยที่ผู้ใช้งานยังได้ตกลงยอมรับซึ่งผลแห่งการถอนความยินยอมนั้นทั้งสิ้น

ข้อ 6 บัญชีผู้ใช้

ในการใช้งานเว็บไซต์ ผู้ควบคุมข้อมูลอาจจัดให้มีบัญชีผู้ใช้ของแต่ละผู้ใช้งานเพื่อการใช้งานเว็บไซต์ โดยที่ผู้ควบคุม ข้อมูลมีสิทธิแต่เพียงผู้เดียวในการอนุมัติเปิดบัญชีผู้ใช้ กําหนดประเภทบัญชีผู้ใช้ กําหนดสิทธิการเข้าถึงข้อมูลของแต่ละ ประเภทบัญชีผู้ใช้ สิทธิการใช้งานเว็บไซต์ ค่าใช้จ่ายใดๆ เกี่ยวกับบัญชีผู้ใช้ หน้าที่และความรับผิดชอบของผู้ใช้งานซึ่ง เป็นเจ้าของบัญชีผู้ใช้นั้นๆ

ทั้งนี้ ผู้ใช้งานตกลงจะเก็บรักษาชื่อบัญชีผู้ใช้ รหัสผ่าน และข้อมูลใดๆ ของตนไว้เป็นความลับอย่างเคร่งครัด และตกลงจะ ไม่ยินยอมให้รวมถึงใช้ความพยายามอย่างที่สุดในการป้องกันไม่ให้บุคคลอื่นใช้งานบัญชีผู้ใช้ ของผู้ใช้งาน

ในกรณีที่มีการใช้บัญชีผู้ใช้ของผู้ใช้งานโดยบุคคลอื่น ผู้ใช้งานตกลงและรับรองว่าการใช้งานโดยบุคคลอื่น ดังกล่าวได้กระทําในฐานะตัวแทนของผู้ใช้งานและมีผลผูกพันเสมือนหนึ่งผู้ใช้งานเป็นผู้กระทําการเองทั้งสิ้น

ข้อ 7 สิทธิของผู้ใช้งาน

ในการเข้าใช้งานเว็บไซต์ตามนโยบายฉบับนี้และการให้ความยินยอมใดๆ ตามนโยบายฉบับนี้ ผู้ใช้งานได้รับทราบถึง สิทธิของตนในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เป็นอย่างดีแล้ว อันรวมถึงแต่ไม่จํากัดเพียงสิทธิ์ของผู้ใช้งาน ดังต่อไปนี้

(ก) ผู้ใช้งานอาจถอนความยินยอมที่ให้ไว้ตามนโยบายฉบับนี้เมื่อใดก็ได้ โดยการแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรแก่ผู้ ควบคุมข้อมูลตามวิธีและช่องทางที่กําหนดในนโยบายฉบับนี้

(ข) ผู้ใช้งานมีสิทธิการเข้าถึงและขอรับสําเนาข้อมูลส่วนบุคคลของตนหรือที่เกี่ยวข้องกับตนที่ผู้ ควบคุมข้อมูลได้เก็บรวบรวมเอาไว้ตามนโยบายฉบับนี้

(ค) ผู้ใช้งานมีสิทธิได้รับการเปิดเผยจากผู้ควบคุมข้อมูลถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของตน หรือที่เกี่ยวข้องกับตนซึ่งตนไม่ได้ให้ความยินยอม หากว่ามีกรณีเช่นว่า

(ง) ผู้ใช้งานอาจให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของตนหรือที่เกี่ยวข้องกับตนไปยังผู้ ควบคุมข้อมูลรายอื่นรวมถึงการขอรับข้อมูลที่ได้ส่งหรือโอนดังกล่าวโดยตรงจากผู้ควบคุมข้อมูลที่ส่ง หรือโอนข้อมูลนั้นด้วย

(จ) ผู้ใช้งานอาจคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของตน หรือที่เกี่ยวข้องกับตนได้ในกรณี ดังต่อไปนี้

(1) ผู้ควบคุมข้อมูลเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานด้วยความ จําเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ควบคุมข้อมูลหรือของบุคคลอื่นซึ่งผู้ใช้งานอาจพิสูจน์ได้ว่าตนมีสิทธิดีกว่าผู้ควบคุมข้อมูล

(2) ผู้ควบคุมข้อมูลเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานเพื่อเป็น การปฏิบัติตามกฎหมายของผู้ควบคุมข้อมูลซึ่งผู้ใช้งานอาจพิสูจน์ได้ว่าตนมีสิทธิดีกว่าผู้ควบคุมข้อมูล

(3) ผู้ควบคุมข้อมูลเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไปเพื่อวัตถุประสงค์ เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง

(4) ผู้ควบคุมข้อมูลเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไปเพื่อวัตถุประสงค์ เกี่ยวกับการศึกษา วิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ โดยที่การศึกษาวิจัยนั้นไม่มีความจําเป็นในการดําเนินการเพื่อก่อให้เกิดประโยชน์สาธารณะ

(ฉ) ผู้ใช้งานอาจให้ผู้ควบคุมข้อมูลดําเนินการลบ ทําลาย หรือทําให้ข้อมูลไม่สามารถระบุตัวบุคคล ผู้เป็นเจ้าของข้อมูลได้ ในกรณีดังต่อไปนี้

(1) เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลหมดความจําเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้น

(2) เมื่อผู้ใช้งานซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ถอนความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้นและผู้ควบคุมข้อมูลนั้นไม่มีอํานาจอื่นตามกฎหมาย ที่จะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้นได้อีกต่อไป

(3) เมื่อผู้ใช้งานได้คัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลนั้นโดยชอบด้วยกฎหมาย

(4) เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลได้ถูกเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ เกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

(ซ) เมื่อผู้ใช้งานพบเห็นว่าข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานผิด ล้าหลัง ไม่ชัดเซน ผู้ใช้งานมีสิทธิให้ผู้ควบคุมข้อมูล ดําเนินการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลนั้นให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดได้

(ฌ) ผู้ใช้งานอาจร้องเรียนต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่เกี่ยวกับ การกระทําการฝ่าฝืนหรือการไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ควบคุมข้อมูล

ข้อ 8 การรักษาความมั่นคงปลอดภัย

ในการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตามนโยบายฉบับนี้ ผู้ควบคุมข้อมูลจะจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคง ปลอดภัยที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือการเปิดเผยข้อมูลที่ไม่เป็นไปตาม กฎหมาย ด้วยมาตรการ มาตรฐาน เทคโนโลยีและ/หรือด้วยระบบ ดังต่อไปนี้

กําหนดสิทธิการเข้าถึงข้อมูล (Access Right) ให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง ใช้การเข้ารหัสข้อมูล (Encryption) ในการส่ง ผ่านข้อมูล และรักษาความปลอดภัย Firewalls และ Internet Protocol Security (IPsec)

ข้อ 9 การแก้ไขปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคล

ผู้ควบคุมข้อมูลจะจัดให้มีระบบและมาตรการตรวจสอบ ดังต่อไปนี้

(ก) ค่าเนินการปรับปรุงแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

(ข) ลบ ทําลายข้อมูลส่วนบุคคลที่เกินระยะเวลาเก็บรวบรวมที่ผู้ใช้งานได้ให้ความยินยอมเอาไว้ และ

(ค) ลบ ทําลายข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องกับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว ตามที่ผู้ใช้งานได้ให้ความ ยินยอมเอาไว้

ข้อ 10 การเก็บรวบรวม ใช้และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ผู้ใช้งานรับทราบและตกลงว่าผู้ควบคุมข้อมูลอาจเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลของผู้ใช้งานได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ใช้งานก่อนล่วงหน้า ทั้งนี้เท่าที่จําเป็นและตราบเท่าที่เป็นไปตามวัตถุประสงค์และในกรณีดังต่อไปนี้เท่านั้น

(ก) เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวกับการจัดทําเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุ เพื่อประโยชน์สาธารณะหรือเกี่ยวกับการศึกษาวิจัยหรือสถิติซึ่งได้จัดให้มีมาตรการปกป้องที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งาน

(ข) เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคลใดๆ

(ค) เป็นการจําเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งผู้ใช้งานเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้นเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อใช้ในการดาเนินการตามค่าขอของผู้ใช้งานเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเข้าทําสัญญาดังกล่าวนั้น

(ง)เป็นการจําเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดําเนินการเพื่อประโยชน์สาธารณะของผู้ควบคุม ข้อมูลหรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อํานาจรัฐที่ได้มอบให้แก่ผู้ควบคุมข้อมูลนั้น

(จ) เป็นการจําเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ควบคุมข้อมูลหรือของบุคคลอื่นซึ่ง ประโยชน์ดังกล่าวมีความสําคัญมากกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานนั้น

(ฉ) เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายของผู้ควบคุมข้อมูล

ทั้งนี้ ผู้ควบคุมข้อมูลจะบันทึกการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานตามวรรคก่อนหน้าไว้เป็น สําคัญ

ข้อ 11 การเก็บรวบรวม ใช้และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Data)

ผู้ใช้งานรับทราบและตกลงว่านอกจากการเก็บรวบรวม ใช้และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งผู้ใช้งานได้ให้ความ ยืนยอมไว้โดยชัดแจ้งให้เก็บรวบรวม ใช้และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามนโยบายฉบับนี้แล้ว ผู้ควบคุมข้อมูลอาจ เก็บรวบรวม ใช้และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Data) ของผู้ใช้งานได้โดยไม่ต้องได้รับ ความยินยอมจากผู้ใช้งานก่อนล่วงหน้า ทั้งนี้เท่าที่จําเป็นและตราบเท่าที่เป็นไปตามวัตถุประสงค์และในกรณีดังต่อไปนี้ เท่านัน

(ก) เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของผู้ใช้งานเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งไม่สามารถ ให้ความยินยอมได้ ไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม

(ข) เป็นข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะด้วยความยินยอมโดยชัดแจ้งของผู้ใช้งานเจ้าของข้อมูล ส่วนบุคคลนั้น

(ค) เป็นการจําเป็นเพื่อการก่อตั้ง การปฏิบัติตาม การใช้หรือการยกขึ้นต่อสู้ซึ่งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

(ง) เป็นการจําเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์อันเกี่ยวกับ

(1) เวชศาสตร์ป้องกันหรืออาชีวเวชศาสตร์การประเมินความสามารถในการทํางานของลูกจ้าง การวินิจฉัย โรคทางการแพทย์ การให้บริการด้านสุขภาพหรือด้านสังคม การรักษาทางการแพทย์ การจัดการด้านสุขภาพ หรือระบบและการให้บริการด้านสังคมสงเคราะห์

(2) ประโยชน์สาธารณะด้านการสาธารณสุข เช่น การป้องกันด้านสุขภาพจากโรคติดต่ออันตรายหรือโรค ระบาดที่อาจติดต่อหรือแพร่เข้ามาในราชอาณาจักร หรือการควบคุมมาตรฐานหรือคุณภาพของยา เวชภัณฑ์ หรือเครื่องมือแพทย์ ซึ่งได้จัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมและเจาะจงเพื่อคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของผู้ใช้งาน เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยเฉพาะการรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลตามหน้าที่หรือตามจริยธรรมแห่งวิชาชีพ

(3) การคุ้มครองแรงงาน การประกันสังคม หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล ของผู้มีสิทธิตามกฎหมาย การคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถหรือการคุ้มครองทางสังคม ซึ่งการเก็บรวมรวม ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานนั้นเป็นสิ่งที่จําเป็นในการปฏิบัติตามสิทธิหรือหน้าที่ของผู้ควบคุมข้อมูลหรือผู้ใช้ งานเจ้าของข้อมูล โดยได้จัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานและประโยชน์ของผู้ใช้งาน เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้น

(4) การศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ หรือประโยชน์สาธารณะอื่น ทั้งนี้ ด้วยการเก็บ รวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยเพียงเท่าที่จําเป็นและได้จัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิขั้นพื้น ฐานและประโยชน์ของผู้ใช้งานเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้นตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้ ประกาศกำหนด

(5) ประโยชน์สาธารณะที่สําคัญ โดยได้จัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐาน และประโยชน์ของผู้ใช้งานเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้น

ทั้งนี้ ผู้ควบคุมข้อมูลจะบันทึกการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานตามวรรคก่อนหน้าไว้เป็น สําคัญ

ข้อ 12 การใช้งานเว็บไซต์ของบุคคลซึ่งอยู่ในความปกครอง อนุบาล หรือพิทักษ์ของผู้ใช้งาน

ผู้ใช้งานรับรองว่าจะตนไม่ใช่และจะไม่ยินยอมให้บุคคลซึ่งมีลักษณะ ดังต่อไปนี้ เยี่ยมชม ใช้งาน หรือเป็นสมาชิกของเว็บไซต์

(ก) คนไร้ความสามารถซึ่งอยู่ในความอนุบาลของผู้ใช้งาน

(ข) คนเสมือนไร้ความสามารถซึ่งอยู่ในความพิทักษ์ของผู้ใช้งาน

ในกรณีที่ผู้ใช้งานยินยอมให้บุคคลลักษณะดังกล่าวข้างต้นเยี่ยมชม ใช้งาน หรือเป็นสมาชิกของเว็บไซต์ ผู้ใช้งานตกลง ให้ถือว่าผู้ใช้งานได้ใช้อํานาจปกครอง อนุบาล หรือพิทักษ์ของบุคคลดังกล่าว แล้วแต่กรณี ในการตกลงและให้ความ ยินยอมตามนโยบายฉบับนี้ทั้งสิ้นเพื่อและในนามของบุคคลดังกล่าวด้วย

ข้อ 13 การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ

ผู้ควบคุมข้อมูลอาจส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานไปยังต่างประเทศได้ในกรณีดังต่อไปนี้

(ก) ประเทศปลายทางหรือองค์การระหว่างประเทศที่รับข้อมูลส่วนบุคคลนั้นมีมาตรฐาน การคุ้มครอง ข้อมูลส่วน บุคคลที่เพียงพอตามที่กฎหมาย กฎ ระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

(ข) ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยที่ผู้ใช้งานเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้รับแจ้งและรับทราบถึงมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เพียงพอของประเทศปลายทางหรือองค์การระหว่างประเทศที่รับข้อมูลนั้นแล้ว

(ค) เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย

(ง) จําเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งผู้ใช้งานเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นคู่สัญญานั้น หรือเพื่อใช้ในการดําเนินการตามคําขอของผู้ใช้งานเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนการ เข้าทําสัญญานั้น

(จ) เป็นการกระทําการตามสัญญาระหว่างผู้ควบคุมข้อมูลกับบุคคลอื่นโดยเป็นไปเพื่อประโยชน์ ของผู้ใช้งานเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้น

(ฉ) เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของผู้ใช้งานเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้นหรือบุคคล ใดๆ เมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่สามารถให้ความยินยอมในขณะนั้นได้

(ช) เป็นการจําเป็นเพื่อการดําเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะที่สําคัญ

ข้อ 14 การแจ้งเตือนเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล

ในกรณีที่ผู้ควบคุมข้อมูลทราบถึงการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลไม่ว่าจะมีการละเมิดโดยบุคคลใด ผู้ควบคุมข้อมูลจะดําเนินการดังต่อไปนี้

(ก) ในกรณีมีความเสี่ยงที่จะมีผลกระทบต่อสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลใดๆ ผู้ควบคุมข้อมูลจะแจ้งเหตุการละเมิด ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวต่อสํานักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยไม่ชักช้าเท่าที่จะสามารถ กระทําได้ภายใน 72 (เจ็ดสิบสอง) ชั่วโมงนับแต่ทราบเหตุ

(ข) ในกรณีมีความเสี่ยงที่จะมีผลกระทบอย่างสูงต่อสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลใดๆ ผู้ควบคุมข้อมูลจะแจ้งเหตุการ ละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวและแนวทางการเยียวยา ต่อสํานักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและ ต่อผู้ใช้งานเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้น โดยไม่ชักช้าเท่าที่จะสามารถกระทําได้ภายใน 72 (เจ็ดสิบสอง) ชั่วโมงนับแต่ทราบเหตุ

ข้อ 15 การร้องเรียนและการแจ้งปัญหาเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล

ผู้ใช้งานอาจร้องเรียนและรายงานปัญหาเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล อันรวมถึงแต่ไม่จํากัดเพียง การขอให้ผู้ควบคุมข้อมูล แก้ไขปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบันและ/หรือ ให้ถูกต้อง การคัดค้านการเก็บรวบรวมข้อมูล หรือระงับการใช้ข้อมูลได้ที่ เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ผ่านช่องทางดังต่อไปนี้

ข้อ 16 การบันทึกรายการสําคัญ

เว้นแต่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลจะกําหนดให้สิทธิผู้ควบคุมข้อมูลไว้เป็นเป็นอย่างอื่น ผู้ควบคุมข้อมูลจะบันทึก รายการสําคัญเกี่ยวกับการจัดเก็บ การใช้ หรือการเปิดเผยข้อมูลเป็นหนังสือหรือระบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อการตรวจสอบ จากผู้ใช้งานเจ้าของข้อมูลหรือจากหน่วยงานของรัฐ อันรวมถึงแต่ไม่จํากัดเพียงรายการ ดังต่อไปนี้

(ก) ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการเก็บรวบรวม

(ข) วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภท

(ค) ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ควบคุมข้อมูล

(ง) ระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

(จ) สิทธิและวิธีการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งเงื่อนไขเกี่ยวกับบุคคลที่มีสิทธิเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและ เงื่อนไขในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลนั้น

(ฉ) การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องขอความยินยอมจากผู้ใช้งานเจ้าของข้อมูล

(ช) การปฏิเสธค่าขอและการคัดค้านต่างๆ

(ช) รายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยในข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อ 17 การแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบาย

ผู้ควบคุมข้อมูลอาจแก้ไขและเปลี่ยนแปลงข้อความในนโยบายฉบับนี้ได้ไม่ว่าเวลาใดก็ตาม และไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนโดยผู้ควบคุมข้อมูลจะแจ้งให้ผู้ใช้งานทราบเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงในแต่ละคราวเพื่อให้ผู้ใช้งานได้พิจารณาและดำเนินการยอมรับด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีการอื่นใด และหากว่าผู้ใช้งานได้ดําเนินการเพื่อยอมรับนั้นแล้ว ให้ถือว่านโยบายที่แก้ไขเพิ่มเติมดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายฉบับนี้ด้วย

ข้อ 18 ความสัมพันธ์ของคู่สัญญา

โดยที่คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายเข้าใจและทราบดีว่า การเข้าทํานโยบายฉบับนี้ไม่ทําให้คู่สัญญาและพนักงานของคู่สัญญา แต่ละฝ่ายมีความสัมพันธ์ในฐานะเป็นลูกจ้างตามกฎหมายแรงงาน หรือเป็นหุ้นส่วนกันตามกฎหมายหุ้นส่วนและบริษัทแต่อย่างใด

ข้อ 19 การโอนสิทธิ

เว้นแต่จะได้กําหนดไว้เป็นอย่างอื่นอย่างชัดแจ้งในนโยบายฉบับนี้ คู่สัญญาตกลงจะไม่โอนสิทธิ หน้าที่ และ/หรือความรับผิดตามนโยบายฉบับนี้ให้แก่บุคคลใดโดยมิได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษร จากคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งเป็นการล่วงหน้าก่อน

ข้อ 20 การสละสิทธิ

การที่ผู้ควบคุมข้อมูลไม่ใช้สิทธิหรือใช้สิทธิล่าช้าในเรื่องหนึ่งเรื่องใดหรือคราวหนึ่งคราวใดก็ดี มิให้ถือว่าผู้ควบคุมข้อมูลสละสิทธิในเรื่องดังกล่าว และการที่ผู้ควบคุมข้อมูลใช้สิทธิแต่เพียงบางส่วนหรือสละสิทธิในเรื่องหนึ่งเรื่องใดหรือคราวหนึ่งคราวใด ก็มิให้ถือว่าเป็นการสละสิทธิในเรื่องอื่นหรือในคราวอื่นด้วย

ข้อ 21 การแยกส่วนของนโยบาย

หากมีข้อความหรือข้อตกลงใดในนโยบายฉบับนี้ที่ตกเป็นโมฆะ ไม่สมบูรณ์ หรือไม่มีผลบังคับใช้ ไม่ว่าด้วยเหตุใดๆ ก็ตาม คู่สัญญาตกลงให้ข้อความและข้อตกลงอื่นๆ ในนโยบายฉบับนี้ยังคงมีผลสมบูรณ์และผูกพันคู่สัญญาอยู่เสมือนหนึ่งว่าไม่มีส่วนที่เป็นโมฆะ ไม่สมบูรณ์ หรือไม่มีผลบังคับใช้นั้นอยู่ในนโยบายฉบับนี้

ข้อ 22 กฎหมายที่ใช้บังคับ

นโยบายฉบับนี้ให้อยู่ภายใต้บังคับกฎหมายของประเทศไทย

ข้อ 23 การระงับข้อพิพาท

หากมีข้อโต้เถียง ข้อขัดแย้งใดๆ เกิดขึ้นอันเนื่องมาจากนโยบายฉบับนี้ หากคู่สัญญาไม่สามารถตกลงกันได้ คู่สัญญาตกลงจะน่าข้อพิพาทดังกล่าวขึ้นฟ้องต่อศาลในประเทศไท


ข้อมูลการติดต่อเจ้าของเว็บไซต์: [email protected]

อัปเดต 7 กันยายน 2566
บริษัท ท็อป แฟร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จํากัด

© 2023 Published by TOPFAIR Development Co., Ltd. All Rights Reserved.